EBC Financial Group วิเคราะห์การค้าระหว่างสหรัฐฯ -จีนที่กำลังเปลี่ยนโฉมการลงทุน
การเปลี่ยนแปลงที่กำหนดทิศทางโลก: การพัฒนาด้านการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีนกำลังปรับโฉมตลาดโลก—EBC วิเคราะห์แนวโน้ม การเคลื่อนไหวของตลาด และมุมมองของนักลงทุน
DC, UNITED STATES, February 24, 2025 /EINPresswire.com/ -- ล่าสุดการค้าระหว่างสหรัฐฯและจีน กำลังก่อให้เกิดจุดเปลี่ยนสำคัญในตลาดการเงินโลก ขณะที่ความตึงเครียดทางการค้าปะทุขึ้นอีกครั้ง จีนกำลังเสริมสร้างเสถียรภาพทางเศรษฐกิจ เพื่อรับมือกับแรงกดดันจากภายนอก ขณะที่สหรัฐฯ กำลังปรับนโยบายด้านภาษีและการลงทุนจากต่างประเทศ เพื่อรักษาสมดุลทางเศรษฐกิจ การเปลี่ยนแปลงทางภูมิรัฐศาสตร์เหล่านี้ ส่งผลกระทบโดยตรงต่อกระแสเงินทุนทั่วโลก และเพิ่มระดับความผันผวนของตลาด นักลงทุนจึงจำเป็นต้องปรับกลยุทธ์การลงทุนให้สอดคล้องกับสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่อง
ตลาดการเงินทั่วโลกกำลังเผชิญกับความไม่แน่นอนที่เพิ่มขึ้น ท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงนโยบายการค้าและกระแสเงินทุนที่ผันผวน ซึ่งส่งผลกระทบโดยตรงต่อสินค้าโภคภัณฑ์ ตลาดแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ และดัชนีหุ้น นักลงทุนและผู้เข้าร่วมตลาดต่างเฝ้าติดตามความเคลื่อนไหวเหล่านี้อย่างใกล้ชิด เพื่อประเมินแนวโน้มและผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต EBC Financial Group (EBC) ได้สังเกตเห็นความต้องการที่เพิ่มขึ้นของสินทรัพย์ปลอดภัยและกลยุทธ์ป้องกันความเสี่ยง ในขณะที่นักลงทุนกำลังปรับตัวเพื่อรับมือกับความท้าทายและแสวงหาโอกาสลงทุน ในสภาวะตลาดที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว
การกลับมาของสงครามการค้า: ความวิตกกังวลในตลาดและความต้องการสินทรัพย์ปลอดภัย
จีนเดินหน้าดำเนินมาตรการภาษีตอบโต้ล่าสุดด้วยแนวทางที่รอบคอบและเป็นไปตามยุทธศาสตร์ โดยมุ่งเน้นการสร้างสมดุลระหว่างการตอบสนองอย่างเฉียบขาดต่อมาตรการทางการค้าของสหรัฐฯ และการรักษาเสถียรภาพของตลาดเพื่อลดผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นกับเศรษฐกิจ ทั้งนี้ ความเชื่อมั่นของนักลงทุนยังคงเปราะบาง โดยเห็นได้จากปฏิกิริยาของตลาดที่ตอบสนองต่อสถานการณ์อย่างใกล้ชิด
จากรายงานของล่าสุดของ Reuters ราคาทองคำพุ่งขึ้นทำสถิติสูงสุด หลังจากมีการประกาศมาตรการภาษีรอบใหม่ระหว่างสหรัฐฯ และจีน โดยราคาทองคำสปอตแตะระดับ 2,942.70 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ รายงานดังกล่าวสะท้อนให้เห็นว่า ความกังวลเกี่ยวกับสงครามการค้ายังคงกระตุ้นความต้องการสินทรัพย์ปลอดภัย เช่น ทองคำและเงิน ในขณะเดียวกัน ตลาดแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศกำลังเผชิญกับความผันผวนที่เพิ่มขึ้นของคู่เงิน USD/CNY โดยค่าเงินหยวนแตะระดับต่ำสุดในรอบสามสัปดาห์เมื่อเทียบกับดอลลาร์ ในขณะที่นักลงทุนกำลังติดตามมาตรการควบคุมเงินทุนของจีนและการเปลี่ยนแปลงนโยบายอย่างใกล้ชิด เพื่อประเมินความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นจากการอ่อนค่าของเงินหยวน
ป้อมปราการเศรษฐกิจของจีน: การเปลี่ยนแปลงของกระแสเงินทุนโลก
ความเคลื่อนไหวเชิงกลยุทธ์ของจีนในการพึ่งพาตนเองทางเศรษฐกิจและสร้างความร่วมมือทางการค้าแบบใหม่ สะท้อนถึงการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญในภูมิทัศน์การลงทุนระดับโลก นับตั้งแต่ปี 2013 จีนได้ริเริ่มโครงการ "หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง (Belt and Road Initiative : BRI)" ซึ่งได้พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านการคมนาคม อาทิ ท่าเรือทางทะเลและทางน้ำ ท่าเรือทางรถไฟ และระบบรางข้ามทวีปที่เชื่อมโยง 150 ประเทศ ซึ่งมีประชากรรวมกันคิดเป็นสองในสามของประชากรโลก ขณะเดียวกัน การลงนามข้อตกลง RCEP ในปี 2020 ถือเป็นข้อตกลงการค้าเสรีฉบับแรกที่ครอบคลุมเศรษฐกิจขนาดใหญ่ที่สุดในเอเชีย ความริเริ่มเหล่านี้เป็นส่วนหนึ่งของแผนยุทธศาสตร์ที่กว้างขึ้นของปักกิ่งในการสร้างความมั่นคงทางการเงินในระยะยาวและลดการพึ่งพาตลาดตะวันตก เมื่อจีนลดการพึ่งพาตลาดสหรัฐฯ แนวโน้มราคาสินทรัพย์อย่างโลหะมีค่าอาจมีโอกาสปรับตัวขึ้นต่อไป
ผลกระทบต่อตลาด: นโยบายการค้าที่กำลังเปลี่ยนโฉมสินทรัพย์สำคัญ
เมื่อไม่นานมานี้ สหรัฐฯ ประกาศใช้มาตรการภาษี 10% ครอบคลุมสินค้านำเข้าจากจีนทั้งหมด ทำให้จีนตอบโต้ด้วยการกำหนดอัตราภาษี 10%-15% ต่อสินค้านำเข้าจากสหรัฐฯ เช่น น้ำมันดิบ ก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) เครื่องจักรกลการเกษตร และสินค้าอื่น ๆ มาตรการเหล่านี้ ประกอบกับภาษี 25% ของสหรัฐฯ ที่เรียกเก็บจากเหล็กและอะลูมิเนียม ทำให้ความตึงเครียดทางการค้าทวีความรุนแรงขึ้น พร้อมกับเพิ่มความกังวลเกี่ยวกับเสถียรภาพของห่วงโซ่อุปทานโลก
ในการให้สัมภาษณ์ล่าสุดกับ CGTN America David Barrett ซีอีโอ ของ EBC Financial Group (UK) Ltd. ได้กล่าวถึงผลกระทบในวงกว้างของนโยบายการค้าของสหรัฐฯ โดยระบุว่า "หากคุณกำลังคิดถึงการสร้างความปั่นป่วน ควรคำนึงว่าสหรัฐฯ มีการขาดดุลอย่างมากในภาคสินค้า และเกินดุลในภาคบริการ ซึ่งนับเป็นแนวทางที่มีประสิทธิภาพสำหรับสหภาพยุโรปในการดำเนินการในเรื่องนี้"
แม้ว่า Barrett จะกล่าวถึงความสัมพันธ์ทางการค้าระหว่าง สหรัฐฯ และสหภาพยุโรป แต่มุมมองของเขาสะท้อนให้เห็นถึงแนวโน้มที่กว้างขึ้น นั่นคือ วิธีที่กลุ่มเศรษฐกิจสำคัญกำลังปรับสมดุลนโยบายการค้าของตนเพื่อตอบสนองต่อกลยุทธ์ภาษีของสหรัฐฯ กระบวนการปรับตัวในลักษณะเดียวกันนี้กำลังเกิดขึ้นในความสัมพันธ์ระหว่าง สหรัฐฯ และจีน โดยจีนตอบโต้ด้วยมาตรการเฉพาะเจาะจงและมุ่งพัฒนาความร่วมมือทางการค้าในรูปแบบใหม่
นอกจากนี้ จีนได้เพิ่มข้อจำกัดในการส่งออกแร่ธาตุสำคัญที่จำเป็นสำหรับการผลิตเซมิคอนดักเตอร์และเทคโนโลยีขั้นสูง การเคลื่อนไหวเชิงยุทธศาสตร์นี้ไม่เพียงแต่สร้างแรงกดดันต่ออุตสาหกรรมหลักของสหรัฐฯ เท่านั้น แต่ยังส่งผลกระทบต่อห่วงโซ่อุปทานเทคโนโลยีระดับโลก ซึ่งอาจมีผลต่อราคาของโลหะอุตสาหกรรมและต้นทุนการผลิต
นักวิเคราะห์จาก EBC ระบุว่า นโยบายการค้าเหล่านี้กำลังส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของตลาด โดยเน้นไปที่กลุ่มนักลงทุนที่มีความสนใจในน้ำมันดิบและสินค้าโภคภัณฑ์ที่กำลังจับตามองการพัฒนาเหล่านี้อย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะผลกระทบจากสงครามการค้าที่กำลังปะทุ ซึ่งอาจทำให้แนวโน้มการเติบโตของเศรษฐกิจโลกชะลอตัว ขณะเดียวกัน มาตรการภาษีล่าสุดของสหรัฐฯ ได้เพิ่มความเสี่ยงให้กับสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงสูง และทำให้เกิดความไม่แน่นอนเกี่ยวกับอัตราเงินเฟ้อ
สำหรับนักลงทุนในตลาดแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ สกุลเงินในตลาดเกิดใหม่อาจเผชิญกับความผันผวนที่สูงขึ้น เนื่องจากการเคลื่อนย้ายของกระแสเงินทุนที่ปรับตัวตามการเปลี่ยนแปลงในภูมิทัศน์การค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน อัตราแลกเปลี่ยน USD/CNY ยังคงเป็นดัชนีสำคัญที่สะท้อนถึงความเชื่อมั่นของตลาดในด้านความเสี่ยง โดยแสดงให้เห็นถึงการตอบสนองของตลาดต่อการเปลี่ยนแปลงนโยบายที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง
บทต่อไป: ตลาดเตรียมรับมือกับการเปลี่ยนแปลงระหว่างการค้าสหรัฐฯ และจีน
การค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีนได้ถึงจุดสูงสุดในปี 2022 ภายใต้นโยบายการค้าของประธานาธิบดีทรัมป์ในสมัยดำรงตำแหน่งครั้งแรก ขณะเดียวกัน กระแสการแยกตัวทางเศรษฐกิจระหว่างสองประเทศมีแนวโน้มที่จะเร่งตัวขึ้นหากทรัมป์กลับเข้าสู่ทำเนียบขาวอีกครั้ง
ตลาดหุ้นทั่วโลกกำลังเผชิญกับความผันผวนที่เพิ่มมากขึ้น เนื่องจากความตึงเครียดทางการค้าที่ทวีความรุนแรง นักลงทุนกำลังจับตาอย่างใกล้ชิดถึงสัญญาณการปรับเปลี่ยนในนโยบายการค้า ซึ่งอาจนำไปสู่การเพิ่มหรือลดความตึงเครียด และส่งผลกระทบโดยตรงต่อความเชื่อมั่นในหลายภาคส่วนของตลาด
ก้าวสู่ความสำเร็จท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงในภูมิทัศน์การเงิน
ในขณะที่ความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐฯ และจีนก้าวเข้าสู่ช่วงใหม่ของการปรับสมดุลทางเศรษฐกิจและการเงิน นักลงทุนและผู้มีส่วนร่วมในตลาดจำเป็นต้องมีความคล่องตัวสูงเพื่อสามารถมองเห็นโอกาสในการลงทุนและบริหารความเสี่ยงในสภาพแวดล้อมที่ได้รับอิทธิพลจากปัจจัยทางภูมิรัฐศาสตร์ที่เพิ่มขึ้น EBC Financial Group ยังคงเป็นผู้นำในการพัฒนาเหล่านี้ โดยนำเสนอสภาพแวดล้อมการลงทุนที่ยอดเยี่ยม เพื่อให้นักลงทุนสามารถปรับตัวได้อย่างมั่นใจ ท่ามกลางความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ เรียนรู้เพิ่มเติมได้ที่ https://www.ebc.com/
###
เกี่ยวกับ EBC Financial Group
EBC Financial Group (EBC) ก่อตั้งขึ้น ณ กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ มีชื่อเสียงในด้านบริการทางการเงินแบบครบวงจร รวมถึงเป็นนายหน้าทางการเงิน การจัดการสินทรัพย์และจัดการโซลูชันการลงทุนที่ครอบคลุม มีการกระจายสำนักงานประจำการในศูนย์กลาง ทางการเงินที่โดดเด่นทั่วทุกภูมิภาค เช่น ลอนดอน ซิดนีย์ ฮ่องกง โตเกียว สิงคโปร์ หมู่เกาะเคย์แมน กรุงเทพฯ ลีมาสซอล เป็นต้น EBC ให้ความสำคัญกับผู้ใช้บริการที่หลากหลาย รวมถึงระดับสถาบันทั่วโลก EBC ให้ความสำคัญกับนักลงทุนทั้งรายย่อย มืออาชีพ และสถาบัน นอกจากนี้ยังมอบโอกาสการลงทุนในตลาดต่างประเทศและผลิตภัณฑ์ที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น ฟอเร็กซ์, สินค้าโภคภัณฑ์, หุ้น หรือดัชนีจากทั่วโลก
EBC ได้รับรางวัลมากมายและเป็นที่ยอมรับในอุตสาหกรรมการเงิน เราภูมิใจที่ยึดมั่นในมาตรฐานทางจริยธรรมและการกำกับดูแลระหว่าง ประเทศแบบสูงสุด EBC Financial Group (UK) Limited ได้รับการควบคุมโดย Financial Conduct Authority (FCA) ของสหราชอาณาจักร EBC Financial Group (Cayman) Limited ได้รับการควบคุมโดย Cayman Islands Monetary Authority (CIMA) ของหมู่เกาะเคย์แมนและ EBC Financial Group (Australia) Pty Ltd ได้รับการควบคุมโดย Australia's Securities and Investments Commission (ASIC) ของออสเตรเลีย
จุดแข็งของ EBC Group คือผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์มากกว่า 30 ปีในสถาบันการเงิน โดยผ่านการรับมือกับวงจรเศรษฐกิจที่สำคัญต่างๆตั้งแต่ข้อตกลงพลาซ่าจนถึงวิกฤตฟรังก์สวิสในปี 2015 ได้อย่างชำนาญ EBC ส่งเสริมวัฒนธรรมที่ความซื่อสัตย์ การเคารพ และความปลอดภัยของสินทรัพย์ลูกค้าเป็นสิ่งสำคัญอันดับแรก เพื่อให้มั่นใจว่า ทุกการมีส่วนร่วมของนักลงทุนจะได้รับการดูแลใส่ใจอย่างสูงสุด
EBC เป็นพันธมิตรในด้านการแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศอย่างเป็นทางการของสโมสรฟุตบอลบาร์เซโลนา (FC Barcelona) ซึ่งนำเสนอบริการเฉพาะทางในภูมิภาคต่างๆ เช่น เอเชีย, ละตินอเมริกา, ตะวันออกกลางแอฟริกา และโอเชียเนีย เป็นต้น นอกจากนี้ EBC ยังเป็นพันธมิตรในโครงการ United to Beat Malaria แคมเปญของมูลนิธิองค์การสหประชาชาติ โดยมีเป้าหมายเพื่อปรับปรุงคุณภาพด้านสุขภาพของประชากรทั่วโลกเริ่มดำเนินกิจกรรมร่วมกันตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ ปี 2024 เป็นต้นมา ไม่เพียงเท่านั้น EBC ยังให้การสนับสนุนซีรีส์การมอบความรู้ให้แก่สาธารณะเกี่ยวกับ “นักเศรษฐศาสตร์จริงๆแล้วทำอะไร” นำโดยภาควิชาเศรษฐศาสตร์ของมหาวิทยาลัย Oxford เพื่อทำให้เศรษฐศาสตร์เป็นเรื่องที่เข้าใจง่ายขึ้นและสามารถประยุกต์ใช้ในสังคมปัจจุบันน เพิ่มความเข้าใจและให้ความสำคัญกับเศรษฐศาสตร์รอบตัวเรามากขึ้น
Douglas Chew
EBC Financial Group
+60 11-3196 6887
email us here
Visit us on social media:
Facebook
X
LinkedIn
Instagram
YouTube
Other
Legal Disclaimer:
EIN Presswire provides this news content "as is" without warranty of any kind. We do not accept any responsibility or liability for the accuracy, content, images, videos, licenses, completeness, legality, or reliability of the information contained in this article. If you have any complaints or copyright issues related to this article, kindly contact the author above.
